ในระบบไฟฟ้าในประเทศของฉัน โครงข่ายไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 6-35KV มีบทบาทสำคัญในการรับประกันการจ่ายไฟที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้สำหรับเขตเมืองภายในระบบนี้ จุดที่เป็นกลางได้รับการจัดการผ่านวิธีการลงกราวด์ต่างๆ เช่น คอยล์ป้องกันอาร์ค การต่อกราวด์ที่มีความต้านทานสูง และการลงกราวด์ที่มีความต้านทานเล็กน้อยอย่างไรก็ตามวิธีหนึ่งที่โดดเด่นในด้านประสิทธิผลคือการต่อสายดินความต้านทานจุดที่เป็นกลาง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ตู้ต้านทานการต่อลงดินจุดที่เป็นกลางของหม้อแปลง
ในระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบที่มีสายเคเบิลเป็นสายส่งหลัก กระแสไฟฟ้าของตัวเก็บประจุกราวด์อาจมีนัยสำคัญ ซึ่งนำไปสู่การเกิดแรงดันไฟเกินกราวด์ส่วนโค้ง "ไม่สม่ำเสมอ" ภายใต้สภาวะ "วิกฤติ" เฉพาะนี่คือจุดที่วิธีการต่อสายดินต้านทานจุดที่เป็นกลางเข้ามามีบทบาทด้วยการสร้างแรงดันไฟฟ้าเกินกราวด์และสร้างช่องทางคายประจุสำหรับพลังงานในความจุกริดถึงกราวด์ วิธีการนี้จะฉีดกระแสความต้านทานเข้าไปในจุดฟอลต์ ทำให้เกิดกระแสฟอลต์กราวด์เกิดขึ้น
คุณสมบัติความต้านทาน-ความจุไฟฟ้าของวิธีการต่อลงดินความต้านทานจุดที่เป็นกลางจะช่วยลดความแตกต่างของมุมเฟสกับแรงดันไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นการลดอัตราการจุดระเบิดใหม่หลังจากที่กระแสจุดฟอลต์ข้ามศูนย์สิ่งนี้จะทำลายสภาวะ "วิกฤต" ของแรงดันไฟเกินส่วนโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจำกัดแรงดันไฟเกินให้เป็นหลายเท่าของแรงดันไฟฟ้าเฟสภายใน 2.6นอกจากนี้ วิธีการนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันข้อผิดพลาดกราวด์ที่มีความไวสูง ในขณะที่ระบุและกำจัดข้อผิดพลาดหลักและรองของเครื่องป้อนได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นจึงเป็นการปกป้องการทำงานปกติของระบบ
ตู้ต้านทานการต่อลงกราวด์จุดที่เป็นกลางของหม้อแปลงมีบทบาทสำคัญในการนำวิธีการต่อกราวด์ความต้านทานจุดที่เป็นกลางไปใช้โดยให้โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการจัดการและควบคุมความต้านทานต่อสายดิน เพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเมื่อเข้าใจถึงความสำคัญของอุปกรณ์นี้และวิธีการที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ผู้ปฏิบัติงานระบบไฟฟ้าสามารถป้องกันไฟฟ้าขัดข้องของกราวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรับประกันการจ่ายไฟฟ้าไปยังเขตเมืองอย่างต่อเนื่อง
โดยสรุป ตู้ความต้านทานต่อกราวด์จุดที่เป็นกลางของหม้อแปลง ร่วมกับวิธีการต่อกราวด์ความต้านทานจุดที่เป็นกลางเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของระบบไฟฟ้าบทบาทในการบรรเทาความผิดพลาดของกราวด์และแรงดันไฟฟ้าเกินถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าระบบจ่ายไฟในเมืองจะทำงานได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
เวลาโพสต์: 27 พฤษภาคม-2024